ขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน กิฟฟารีน เคอร์คิวมา ซี-อี แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

ขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน มีสรรพคุณทางยามาตั้งแต่อดีต ก่อนคริสศักราช 250 ปี จากบันทึกการใช้ยาในเอเชียใต้, อ้างใน Treatises ภาษาสันสกฤตในทางการแพทย์ และใช้กันอย่างแพร่หลายในยาอายุรเวท และ Unani อายุรเวท Susruta ของเคท ในประเทศอินเดีย มีการบันทึกถึงการนำครีมที่มีขมิ้นเพื่อรักษาอาการของคนถูกที่วางยาพิษ แก้การอักเสบของแผลที่ผิวหนัง และบำรุงผิวพรรรณสำหรับผู้หญิง สำหรับศาสนาฮินดู ในพิธีแต่งงาน เจ้าสาวจะถู ขมิ้นตามร่างกายของพวกเขา และกับทารกแรกเกิด โดยลูบบริเวณหน้าผากของพวกเขา เพื่อให้ผิวพรรณดูผ่องใส และแวววาวดูมีราศี ปราศจากสิ่งชั่วร้าย เหมือนในประเพณีไทยที่ผู้ชายที่กำลังบวชเป็นพระ จะใช้ขมิ้นในการขัดผิวในขั้นตอนการบวชนาค และพบว่าคนชนชั้นสูงในประเทศอินเดีย นำชิ้นส่วนของเหง้าของขมิ้น แช่ลงไปในน้ำเพื่อใช้ในอาบน้ำ มีรายงานว่าขมิ้นจะช่วยปรับโทนสีผิว หรือช่วยให้ผิวเนียน สว่างใส ผู้หญิงในแถบเอเชียจึงรู้ถึงสรรพคุณของขมิ้นเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังนิยมนำไปประกอบอาหารเพื่อป้องกันโรคทางเดินอาหาร และเสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณ ทั้งยังป้องกันโรคมะเร็ง โดยจะพบว่าคนแถบตะวันออกโดยเฉพาะคนเอเชียจะมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่าคน แถบตะวันตก

ขมิ้นชัน

เหง้าขมิ้นชันประกอบด้วยสารสำคัญประเภทเคอร์คูมินอยด์เป็นสารสีเหลือง ประกอบด้วยเคอร์คูมิน, เดสเมทอกซี เคอร์คูมิน และบิสเดส เมทอกซีเคอร์คูมิน และน้ำมันหอมระเหย มีสีเหลืองอ่อน มีสารสำคัญคือ เทอร์เมอโรน และซิงจีเบอรีน นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่มเซสควิเทอร์ปีน และโมโนเทอร์ปีน อื่นๆ ขมิ้นชันที่ดีต้องมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยจำพวกเคอร์คูมินอยด์คำนวณเป็นเคอร์ คูมินไม่น้อยกว่า 5% โดยน้ำหนัก และ 6% โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก ตามลำดับตามมาตรฐานของตำรับยาสมนุไพรของประเทศไทย หรือไม่น้อยกว่า 3% และ 4% ตามลำดับ ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

ประโยชน์ ขมิ้นชัน

ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาการศึกษาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลองพบว่า สารสกัดหรือสารสำคัญของ ขมิ้นชัน มีฤทธิ์ทางยาที่สำคัญพอสรุปได้ ดังนี้

1. ฤทธิ์ลดการอักเสบผัวหนัง

2. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและ antioxidant activity ของสารกลุ่มเคอร์คูมินนอยด์

3. ฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์และต้านการเกิดมะเร็งจากการได้รับสารก่อมะเร็งที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ

4. ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย

5. ฤทธิ์ต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคกลาก

กลูตาไธโอน (Glutathione)

กลูตาไธโอน (Glutathione) จัดเป็นสารประเภท Tripeptide ซึ่งประกอบด้วย กรดอะมิโน 3 ชนิด คือ Glutamine, Cysteine และ Glycine ที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่มีปริมาณน้อยอาจไม่เพียงพอในการนำไปสร้างสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกัน การเสื่อมต่างๆ ของเซลล์ในร่างกาย การรับประทานกลูตาไธโอนสามารถดูดซึมผ่านผนังลำไส้เล็กได้ แต่ส่วนที่อยู่ในทางเดินอาหารส่วนอื่นจะถูกย่อย สลายได้เป็นกรดอะมิโนต่างๆ คือ กลูตามีน ซีสเทอีน และไกลซีน ซึ่งสามารถนำมาสร้างเป็นกลูตาไธโอนได้ใหม่ภายในเซลล์ กลูตาไธโอนช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส เนื่องจากมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการสร้างเม็ดสีเมลานินของผิวหนัง ที่ถูกสร้างขึ้นในหนังกำพร้าชั้นล่างสุด โดยถ้าร่างกายมีกลูตาไธโอนก็จะสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตเมลานินและทำให้ผิวมีสีคล้ำ เพราะเมื่อเอนไซม์ Tyrosinase ถูกยับยั้งก็จะทำให้มีการสร้าง Pheonomelanin

บทาทของกลูตาไธโอนต่อผิว

  1. ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวขึ้น จุดด่างดำลดลง
  2. เป็นแอนติออกซิแดนท์ (สารต้านอนุมูลอิสระ) ช่วยลดรอยหิวย่นและทำให้ผิวเรียบเนียนใส นอกจากนี้ กลูตาไธโอน จะสามารถทำงานได้ดีเมื่อมีวิตามินซีและวิตามินอีร่วมด้วย

วิตามินซี

วิตามินซีมีความสำคัญต่อกระดูกเยื่ออ่อนและผิวหนัง กล่าวคือ วิตามินซีจะช่วยร่างกายในการผลิตและรักษาระดับของสารคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ใช้ในการสร้างกระดูกและฟัน เส้นเอ็นและผิวหนังที่กระจายอยู่ทั่วไปในโครงสร้างของร่างกาย

วิตามินซีกับความสวยความงาม

วิตามินซีสามารถป้องกันอันตรายจากแสงยูวี หากเราทาวิตามินซีก่อนออกแดดจะสามารถลดปัญหาผิวไหม้ บรรเทาอาการอักเสบของผิวเมื่อถูกแสงแดด และพบว่าเมื่อทาร่วมกับวิตามินอีและครีมกันแดดที่มี Oxybenzone ก็จะสามารถป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้ดีขึ้น ทั้งยังมีฤทธิ์ต้านการเกิดออกซิเดชั่น (Antioxidant) ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากความชราของผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยมีการทดลองทาวิตามินซีที่ใบหน้าเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าทำให้เส้นริ้วรอยบางๆ จางหายไป ผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น วิตามินซียังมีความโดดเด่นในการผูกใจคนรักสวยรักงาม คือ ท าให้เม็ดสีเมลานินจางลง กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ของผิวพรรณ ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ในคนที่เป็นฝ้า กระ รอยดำ ส่งผลให้ผิวพรรณสดใสเรียบเนียนและมีสุขภาพดีขึ้น และยังช่วยสมานแผล

วิตามินอี

วิตามินอีเป็นคำเรียกสารประกอบกลุ่มหนึ่งชื่อ โทโคฟีรอล (Tocopherol) ซึ่งมี 4 รูปแบบหลักๆ คือ แอลฟา (Alpha) เบตา (Beta) แกมมา (Gamma) และเดลตา (Delta) แต่แอลฟาโทโคฟีรอล (Alpha-tocopherol) เป็นชนิดที่พบมากที่สุด และออกฤทธิ์มากที่สุด วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ร่างกายจึงเก็บสะสมไว้ได้นาน

บทบาทของวิตามินอีต่อผิว

-ปกป้องเยื่อบุเซลล์

-เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยเปลี่ยนอนุภาคออกซิเจนที่ไม่เสถียรให้เป็นกลาง จึงไม่ทำลายเซลล์ของร่างกาย

-เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือด ต้านการแข็งตัวของเลือด ลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขมิ้นชัน ผสมวิตามินซีและวิตามินอี ชนิดแคปซูล ตรา กิฟฟารีน

รางวัล ขมิ้นชัน

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล :

  • ขมิ้นชัน ผง 300 มก.
  • กรดแอสคอร์บิค 20 มก. (ให้วิตามินซี 20 มก.)
  • วิตามินอี อะซีเตท 10 มก. (ให้วิตามินอี 5 หน่วยสากล)

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-3 แคปซูล หลังอาหาร

  • ขนาดบรรจุ : 60 แคปซูล

สามารถจดรหัสนี้ 111066933 ไปซื้อได้ที่สาขาใกล้บ้าน ลด25% ทั่วประเทศ

!สั่งซื้อออนไลน์ได้แล้ววันนี้

​!ส่งถึงหน้าบ้าน !มีเก็บปลายทาง

line@
Tel.0835604800 

Line : shareyonsk

ขมิ้นชัน
kerry

กิฟฟารีนได้นำมาผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP  ผ่านการตรวจวิเคราะห์แล้วว่าปลอดเชื้อโรคปลอดสารพิษปลอดโลหะหนักจึง ปลอดภัย100%

กิฟฟารีน
กิฟฟารีน

เอกสารอ้างอิง

  1. สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาตรฐานสมุนไพรเล่มที่ 3 ชุดเห็ดเทศ Senna alata (L.)Roxb. โรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, กรุงเทพฯ. 2545
  2. กองวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์กาแพทย์คู่มือสมุนไพรเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน Text and journal Corporation กรุงเทพฯ 2531:42.
  3. J Ethnopharmacol 1990;29 : 337-340.
  4. J Ethnopharmacol 1995;45 : 151-156.
  5. J Ethnopharmacol 2003;84(1) : 1-4.
  6. Arjinpathana N, Asawanonda P. Glutathione as an oral whitening agent : A randomized, double-blind, placebo-controlled study, Journal of Dermatological Treatment 2010: 1:6.
  7. มัณฑนา ภานุมาภรณ์. Herbal Whitening Agents. ใน : มัณฑนา ภานุมาภรณ์, บรรณาธิการ. Cosmetics for Aestheic and Hwalth กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์กรุงเทพฯ เวชสาร ; 2552 : 107-130.
  8. Witschai A, Reddy S, Stofer B, et al. The systemic availability of oral glutathione : Effect on plasma concentration. American Journal of Physiology 1992;43:667-669.
  9. Hagen TM, Wierzbicks GT, Sillau AH, et al. Bilavailability of dietary glutathione: Effect on plasma concentration. American Journal of Physilogy-Gastrointestinal and liver Physiology 1990;259(4 22-4).
  10. Vikram Sinai Talaulikar, Isaac T. manyonda. Vitamin C as an antioxidant supplement in women’s health: a myth in need of urgent burial, European Journal of Obstetrics & Gynecology and Reproductive Biology, Volume 157, Issue 1, July 2011, Pages 10=13
  11. Jens J. Thiele, Swarna Ekanayake-Mudiyanselage. Vitamin E in human skin:Organ-specific physiology and considerations for its use in dermatology and considerations for its use in dermatology, Molecular Aspects of Medicine, Volume 28, Issues-56, October-December 2007, Pages 646-667
  12. Jay S. Trivedi, Steven L. Krill, James J. Fort. Vitamin E as a human skim penetration enhancer European Journal of Pharmaceutical Sciencer, Volume 3, Issue 4, August 1995, Pages 241-243